ครบหนึ่งปีนโยบายพลังงานรัฐบาล: เริ่มต้นดีแต่ปลายแผ่ว
รัฐบาลนี้เข้ารับตำแหน่งด้วยการประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่บิดเบือนให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของประเทศไทยมาก ที่สุด ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าพลังงานสุทธิ (นำเข้ามากกว่าส่งออก) ดังนั้นเราจึงไม่อยู่ในฐานะที่จะอุดหนุนราคาพลังงานให้มีราคาบิดเบือนจากต้นทุน ซึ่งจะทำให้พลังงานมีราคาถูกจนเกินไปจนต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการนำเข้านั้นเป็นการนำมาเพื่อการบริโภค ไม่ใช่เพื่อการผลิตเพื่อสร้างมู,ค่าเพิ่ม ก็ยิ่งเป็นการไม่สมควรที่รัฐจะไปส่งเสริมให้มีการบริโภคคมากขึ้นจนต้องนำเข้าจากต่างประเทศ นโยบายปรับโครงสร้างราคาพลังงานของรัฐบาลนี้เริ่มด้วยการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนในส่วนของน้ำมันเบนซินและดีเซลที่เก็ยอยู่ใขณะนั้นทั้งหมดในคราวเดียวส่งผลให้ราคาน้ำมันทั้งสองชนิดลดลงทันที่ลิตรละ 7 บาท และ 3 บาท ตามลำดับเพียงในชั่วข้ามคืนในปลายเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ถึงแม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนในทุกครั้งนั้น ด้วยเหตุผลว่าการปรับลดลงที่มากจนเกินไปจนทำให้กองทุนฯ สูญเสียรายได้มากมายในขณะที่ยังมีภาระต้องชดเชยส่วนต่างราคานำเข้าก๊าซ LPG จากต่างประเทศในระดับสูง แต่เนื่องจากรัฐบาลชี้แจงว่าเป็นการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง และถือเป็นจุดเริ่มต้นของนโยบายการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเริ่มที่การปรับโครงสร้างการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันก่อน และจะรีบปรับโครงสร้างราคาพลังงานชนิดอื่นอย่างเช่น LPG ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงโดยเร็วต่อไป ซึ่งก็จะทำให้ผมยอมรับได้ในระดับหนึ่ง
ต่อมารัฐบาลก็เดินหน้าปรับโครงสร้างราคาพลังงานจริงอย่างที่พูดเอาไว้ โดยมีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่ง และก๊าซ …